ข้อคิดการปฏิบัติธรรมวิปั สสนากรรมฐาน
ข้อคิดการปฏิบัติธรรมบ้านพุ
7-12 ตุลาคม 2556
หัวข้อ : วิปัสสนากรรมฐาน ปฏิบัติเข้มหวังผลความก้าวหน้า รุ่น2
วิทยากร : พระอาจารย์สุรศักดิ์ วัดมหาธาตุ กทม.
***ได้มีเวลามาพิจารณาทบทวนตั
เปิด-เปิด
เปิด-เปิด ตา เพื่อให้รับแสงแห่งพระธรรม
เปิด-เปิด หู เพื่อให้ได้ยินเสียงแห่งสำเนี
เปิด-เปิด ปาก เพื่อให้สนทนาพูดจาธรรม
ปิด-ปิด
ปิด-ปิด ตา อย่าสอดใส่ให้เกินเหตุ
ปิด-ปิด หู อย่าให้แส่ ไปฟังเรื่อง ที่เป็นเครื่องกวนใจ
ปิด-ปิด ปาก อย่าพูดมาก เกินความจำเป็น
***ข้อคิดเตือนใจภายในบ้านพุ
ปิดวาจา งดพูด เพื่อภาวนา
ตัวกูไม่ใช่ของกู
อย่ายึดมั่น ถือมั่น
ศีล สมาธิ ปัญญา
ทาน ศีล ภาวนา
ภาวนามยปัญญา
สติมา ปัญญาเกิด
ทุกข์สุข อยู่ที่ใจ
ไม่เที่ยงหนอ
เกิด แก่ เจ็บ ตาย
ดูจิตเรา
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ปล่อยวาง
เกิด ดับ
ดูลมหายใจ
ฉันมาทำอะไร
เจ้านายคือตัณหา สมุหทัย
ตามตัณหาไม่เกิดทุกข์ แต่ถ้าขัดใจตัณหาเกิดทุกข์
ประตูสู่ธรรม
ได้พรม อย่าลืมเสื่อ ได้เสื้อ อย่าลืมใส่ ได้เป็นใหญ่ อย่าลืมตัว
***การเดินจงกรม***
การเดินจงกรมเป็นการเจริญแบบมี
เดินจงกรม มี 6 แบบ
การเดินจงกรม 1 ชุดมี 6 แบบ
แบบที่1 ขวาย่างหนอ ซ้ายย่างหนอ
แบบที่2 ยกหนอ เหยียบหนอ
แบบที่3 ยกหนอ ย่างหนอ เหยียบหนอ
แบบที่4 ยกส้นเท้าหนอ ยกหนอ ย่างหนอ เหยียบหนอ
แบบที่5 ยกส้นเท้าหนอ ยกหนอ เหยียดหนอ ลงหนอ ถูกหนอ
แบบที่6 ยกส้นเท้าหนอ ยกหนอ เหยียดหนอ ลงหนอ ถูกหนอ กดหนอ
ข้อความที่ใช้ประกอบการเดิ
ยืนหนอ... ยืนหนอ... ยืนหนอ...(พูดยืนหนอ 3 ครั้ง ท้ายคำว่าหนอทุกครั้งต้องลากเสี
อยากเดินหนอ... อยากเดินหนอ... อยากเดินหนอ...
อยากกลับหนอ... อยากกลับหนอ... อยากกลับหนอ...
กลับหนอมี 6 จังหวะ กลับหนอ... กลับหนอ... กลับหนอ... กลับหนอ...
กลับหนอ ...กลับหนอ...
พองหนอ...หาจใจเข้าไปที่ท้
ยุบหนอ...หายใจออกจากท้องไม่ใช่
คำที่ใช้กำกับสติให้ระลึกได้อยู
ตักหนา... กินหนอ... อมหนอ... เคี้ยวหนอ... กลืนหนอ ดื่มหนอ...
อาการการเดิน มือทั้งสองไขว่หน้าด้
อาการกิน ให้อมและวางช้อนก่อนที่จะเคี้ยว และหลับตาพิจารณาการเคี้ยว เคี้ยวหนอ... ประมาณ 25-30 ครั้ง
***ข้อมูลท่ีเก็บได้จากการปฏิบั
กัมมฐานแบ่งเป็น สมถวิปัสนา กับวิปัสสนากรรมฐาน
วิปัสสนา กับสมาธิ แตกต่างกันคือ
วิปัสสนากรรมฐานจะใช้สติกำกับรั
โดยจะทำการแยกรูป(ร่างกาย) แยกนาม(จิตใจ)ออกจากกันให้ชั
เป็นขณิกะสมาธิ แบบสมาธิไม่ลึก ไม่ตามไปดูลึกๆเหมือนสมาธิสั
สมาธิเป็นการทำจิตให้นิ่
ใจ รับสัญญาณ ทีเป็นอารมณ์ บอกการเจ็บป่วยและส่งไปที่สั
ใจเป็นเพียงตัวรู้
กายเป็นตัวเจ็บเท่านั้น มีดบาดก็เจ็บตรงนั้นไม่มาที่ใจ ร่างกายปวดเมื่อย ที่รูปที่กายเท่านั้น ไม่มาที่ใจ เป็นการแยกรูป แยกนามออกจากกัน
เวทนานุปัสนา กายยานุปัสนา เห็นอริยสัจ 4
สติปัฐฐาน4 เข้าถึงอริยสัจ 4 เห็นรูป นาม เวทนาดับ
ทุกขเวทนาดับในสมาธิให้ไ้ด้ ใช้เวลา 1.30 หรือ 2 ชั่วโมง
วิปัสสนากรรมฐานมีทั้งหมด 16 ญาน ญาณที่ 3 ใช้เวลา 2 เดือนอาสวขยักญาณ แยกรูปนามใด้อย่างชัดเจน
ญาณรูปที่ 1-3 เห็นพระไตรลักษณ์อย่างชัดเจน
เห็นการดับไปอย่างชัดเจน คุ้มเข้มๆ 2 ชั่วโมง
สนองตัณหากิเลส
ให้สติตื่นรู้
กิเลสสั่ง เพลอสร้างกรรมใหม่ ต้องให้สติสั่ง สติตามรู้
กินข้าวแบบสติปัฐฐานโดนใช้สติรั
เราฝึกสติยังไม่ได้ฝึกสมาธิ สติได้สมาธิจะมาเอง
สติตื่นอยู่ รับรู้ในสิ่งที่ขณะทำ
สงบ นิ่ง เฉย แยกรูป แยกนาม
จิตเข้มแข็ง ทำให้เวทนาดับได้
***การใช้วิปัสสนากรรมฐานรั
1) รักษาโรคต่างๆที่เล็กน้
2) รักษาโรคมะเร็ง ใช้เวลา 3-6 เดือน นั่งวิปัสสนากรรมฐาน เช้า กลางวัน เย็น จะหายไปเอง
3) ผู้หญิงอายุ 65 ปี เป็นโรคกระดูกสันหลังทับเส้
การกระทำร่างกายคือกิเลส ตัณหา
เห็นอารมณ์พระนิพพาน
ทุกข์เวทนาดับ ในญาณที่ 3 เป็นพระโสดาบัน
เส้นทางโสดาบัน รู้จักประหารกิเลส
พระพุทธเจ้าเคยเสวยพระชาติเป็
ทุกขเวทนาไม่เที่ยงจะดับในวิปั
นั่งวิปัสสนากรรมฐาน แบบนังสมาธิชั้นเดียว หรือนังขัดสมาธิ 2 ชั้น จะเกิดทุกขเวทนาขณะที่นั่ว จะมีอาการเจ็บ หรือปวดที่ขา จะต้องไม่ให้อารมณ์ ส่งไปที่ใจ
แต่ให้ใช้การสังเกตเห็นได้คื
คนหลับไม่รับรู้อะไรเหมือนการนั
เวชนาวิปัสสนาเห็นมรรคมีองค์ 8
***สติปัฏฐาน 4 เป็นหลักธรรมที่อยู่ในมหาสติปั
กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน - การมีสติระลึกรู้กายเป็นฐาน ซึ่งกายในที่นี่หมายถึงประชุม หรือรวม นั่นคือธาตุ 4 ได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟมาประชุมรวมกันเป็นร่างกาย ไม่มองกายด้วยความเป็นคน สัตว์ เรา เขา แต่มองแยกเป็น รูปธรรมหนึ่งๆ เห็นความเกิดดับ กายล้วนไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นอนัตตา
เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน - การมีสติระลึกรู้เวทนาเป็นฐาน ไม่มองเวทนาด้วยความเป็นคน สัตว์ เรา เขาคือไม่มองว่าเรากำลังทุกข์ หรือเรากำลังสุข หรือเราเฉยๆ แต่มองแยกเป็นนามธรรมอย่างหนึ่ง เห็นความเกิดดับ เวทนาล้วนไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นอนัตตา
จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน - การมีสติระลึกรู้จิตเป็นฐาน เป็นการนำจิตมาระลึกรู้เจตสิ
ธรรมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน - การมีสติระลึกรู้สภาวะธรรมเป็
สติปัฐฐาน 4 กายานุปัสสนา เวทนานุปัสสนา จิตตานุปัสสนา ธรรมมานุปัสสนา
โทสะ ตัณหา แยกรูป แยกนาม
ทุกขเวทนา การที่ไม่ดับคือการยึดมั่นถือมั
***พระไตรลักษณ์ มีเกิด มีดับ
ไตรลักษณ์ อนิจจัง(ความไม่ยังยืน) ทุกขัง(เกิดมามีทุกข์) อนัตตา(ไม่มีตัวตน)
ไตรลักษณ์ แปลว่า "ลักษณะ ๓ อย่าง" คือธรรมนิกาย หมายถึงสามัญลักษณะ คือกฎธรรมดาหรือข้อกำหนดที่แน่
1. อนิจจตา (อนิจจัง) - ความไม่เที่ยง ความไม่คงที่ ความไม่ยั่งยืน ภาวะที่เกิดขึ้นแล้วเสื่
2. ทุกขตา (ทุกขัง) - ความเป็นทุกข์ ภาวะที่ถูกบีบคั้นด้วยการเกิดขึ
3. อนัตตตา (อนัตตา) - ความเป็นอนัตตา ความไม่ใช่ตัวตน ความไม่มีตัวตนที่แท้จริงของมั
ตัณหาเนียนมาก
กิเลส ตัณหา โทสะ
แยก รูป แยกนาม
นาม คติ จิต
รูป ร่างกาย
นั่งวิปัสสนากรรมฐานควรนั่ง เช้า 1 ชม. เย็น 1 ชม.
วันที่ 9 ตุลาคม 2556 นั่งได้ 2 ชั่วโมงโดยไม่เปลี่ยนท่า ได้ 2 บัลลังก์(นั่งวิปัสสนากรรมฐาน เวลาบ่าย และตอนกลางคืน) สามารถทนทุกขเวทนาได้ เวทนาดับในสมาธิได้
สัมมาอาระหัง นั่งขัดสมาธิ 2 ชั้น
ยุบหนอ พองหนอ วิปัสสนากรรมฐาน นั่งสมาธิชั้นเดียวหลวมๆ จะได้ไม่ทุกขเวทนามาก
เจริญสติ ก็คือ ทำให้ครอบคลุมทั้งหมดในกิจวั
สติปัฐฐาน 4 แยก รูป แยกนาม ออกจากกัน กายเจ็บ(รูป) ใจ(นาม)ไม่เศร้าตามกาย
กายเจ็บอย่าให้ส่งสัญญาณเป็
ต้องมีสติแล้วรู้ว่ามันต้องเกิ
บอกว่าปวดหนอ ไปเรื่อยๆ ลืมจะหายไปเอง
หลักการนั่งวิปัสสนากรรมฐาน ต้องขยัน อดทน จึงจะสำเร็จบรรลุญาณ
คนเราเกิดมาท่ามกลางแห่งความทุ
ทุกข์เวทนาดับแล้วกลับมาอีก
กรรมเป็นทุกข์เวทนา
ทุกขเวทนาเปลี่ยนท่าเป็นตั
นึกถึงจดจ่อเป็นสมาธิหายใจเข้
วิธียุบหนอ พองหนอง่ายกว่าวิธีอณาปานสติ
กินข้าวมีสติก็ได้บุญ เป็นการพิจารณาอาหารอย่างมีสติ
กิเลส โทสะจริต โมหะ
ทุกขเวทนา เป็นกรรมที่เกิดขึ้น
ต้องหาอุบายตัวเอง
โทสะหงุดหงิด
ถ้าสามารถทำให้เวทนาดับ โดยเวทนาอาการปวดเจ็บจะระบิ
เมื่อเกิดทุกขเวทนาตรงใหน ก็ให้แผ่เมตตให้เจ้ากรรม นายเวร ที่ทำให้เกิดอาการนั้น ก็จะหายไปเอง
สติต้องแข็งแรง ต่อสู้ได้ จึงจะบรรลุไปแต่ละญาณได้ในทั้
ทุกขสัตว์ กำนดรู้
หลวงพ่อจรัญใช้วิธี ยุบหนอ พองหนอ โดยเดินจงกรม 1 ชั่วโมง นั่ง
หลักการต้องเอาจริงเอาจัง ตื้อและทน
ทำตามความสามรถที่เราทำได้
ทุกขเวทนาเป็นอารมณ์
กำหนดรู้แล้วปล่อยวาง เฉยๆ
ตัณหากลัวตาย
ข้าวต้ม ตัณหา
สติต้องอยูกับปัจจุบัน อดีตและอนาคตไม่ใช่สติ
อยากกินคือตัณหา
เจริญสติทุกวัน
เวทนาหนักมาก
กำหนดรู้
ควบคุมตัณหาการกิน กินเพื่ออยู่ไม่ได้อยู่เพื่อกิน กินช้าๆจะเบื่ออาหารเองลดความอ้
นั่ง 2,3 และ4ชั่วโมง
นั่งกัมมัฐฐานอย่ากินน้ำมาก
หายใจลึกๆ ทำการไช้เส้นเลือดเล็กๆืที่ตั
เจริญอริยมรรค
ยืนวิปัสสนากรรมฐาน สามารถแก้ปัญหาการนั่งวิปั
นั่งวิปัสสนากัมมัฐฐาน
เดินจงกรมเพื่อเจริญสติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น