วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2559

โมกขธรรม

คำสำคัญ
โมกขธรรม ไตรสิกขา สังสารจักร มาร สังขารมาร เทพบุตรมาร มัจจุราชมาร วิสังขาร อสังขธรรม นิโรธธรรม เบ็ญจขันธ์ กรรมฐาน ภาวนา สติปัฏฐาน 4

เนื้อหา
-โมกขธรรมคือธรรมให้พ้นทุกข์ มี
84,000ธรรมขันธ์ ย่อเป็นไตรสิกขา
ย่อเป็นมรรคมี 8
- มารคือกิเลสมี สังขารมาร ทำให้เจ็บป่วย เทพบุตรมาร ดลใจให้คิดนู้นคิดนี้ มัจจุราชมาร ทำให้เกิดความตาย
- ดีหรือชั่ว ทำให้เกิดเหตุปัจจัย ตามกรรมที่ทำไว้
-เวียนว่ายตายเกิดในสังสารจักร ตามบุญกุศล หรือบาบอกุศล
ไดรับผลกรรมเป็นวิบากกรรม
- เราเลือกเกิดไม่ได้ กรรมมันบังคับ
แก้ได้โดยทางปฏิบัติสายกลาง อริยมรรคมีอง์ 8 ต้องทำให้พ้นเบ็ญจขันธ์
- วิสังขาร เป็นธรรมชาติไม่ประกอบด้วยการปรุงแต่ง เป็นนิพพาน
- โมกขธรรมนำไปสู่พ้นทุกข์
- อสังขธรรม ไม่ปรุงแต่ง ไม่เกิดใหม่ เป็นนิพพาน นิโรธธรรม
- ดับดิเลส ดับธาตุดับเบ็ญจขันธ์ ไม่เกิดต่อไป ขันธ์แตกดับ
เบ็ญจขันธ์ จะทำให้เกิด อนิจจัง ทุกขังข์ อนัตตา
เบ็ญจขันธ์ เป็นทุกข์
กรรมฐานคือที่ตั้งของใจ
ภาวนาคือการทำให้เจริญ
สมถภาวนา มี 40 วิธี
โมกขธรรม นำไปสู่พ้นทุกข์ คือมรรคมีองค์ 8 ธรรมชาติไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง
- สติปัฏฐาน 4
- ไตรเภทอินเดียโบราณ ปริญญาเอก
จิตสงบ ศีลบริสุทธ์ ศีลละสุทธิ
ญาณระดับต่างๆ ปฐมญาณ จตุญาณ
- สังขาร เปนอนัตตา ธรรมทั้งปวง คือรูปนามเบ็ญจขันธ์
มรรคมีองค์ 8 ย่อมาเป็นไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ ป้ญญา
เราตถาคตคือธรรมกาย เป็อสังขธรรม ธาตุบริสุทธ์
เบ็ญจขันธ์ แตกสลาย นิพพาน เรียกว่าอัตตา ดับเบ็ญจขันธ์
- สมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน เป็นการศึกษาสัมมาปฏิบัติ สมาธิและปัญญา
- การเพ่งแสงสว่าง เรียกว่า อาโลกกสิณ บริกรรมนิมิตร ปรากฏเป็นดวงกลมใสสว่าง ที่มีอนุภาพให้ได้สมาธิ ตั้งแต่ขั้น ขณิกสมาธิ อุปจารสมาธิ อัปปนาสมาธิ พร้อมบริกรรมภาวนา สัมมาอะระหังๆๆๆ ประกอบกันทำให้ใจสงบ
- บรรดาสังขารทั้งปวงประกอบด้วยปัจจัยปรุงแต่ง ได้แก่ ธาตุ ขันธ์ กรรม กิเลส บาบ บุญ เกิดจากการปรุงแต่ง ย่อมตกอยู่ในอาณัติแห่งพระไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง เป็นของไม่เที่ยง ทุกขัง เป็นทุกข์ คือทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้นานตลอดไป อนัตตา ไม่มีตัวตน ก็แตกสลายหมดสภาพเดิมของมันไป
ขันธ์ 5 รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
อายตนนิพพาน (อายตนแปลว่า บ่อเกิด ที่อยู่) เป็นที่สถิตอยู่ของพระนิพพานธาตุ จะเห็นด้วยญาณรัตนะ ของพระธรรมกาย คือธรรมกายตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระอรหันตสาวก ผู้ดับขันธ์ปรินิพพาน ด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุ(พระนิพพานธาตุที่ไม่มีเบญจขันธ์ครอง หรือเหลืออยู่)
- สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้แสวงหาโมกขธรรม เพื่อความหลุดพ้นจากสภาวธรรมที่เป็นสังขารธรรมที่เป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เพื่อความเข้าถึงได้รู้ เห็น และเป็น อมตธรรม คือธรรมที่ไม่ตาย ที่ตรงข้ามกับ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เป็นสภาวะที่ นิจจัง(เที่ยง) สุขัง(เป็นสุข)
และเป็น อัตตา(มีตัวตน) โดยหลุดพ้นจากสังขารธรรม อันมี กิเลส อวิชชา ตัณหา อุปาทาน เป็นเครื่องปรุงแต่งทั้งปวง
- อนัตตลักขณสูตร เป็นการเปรียบเทียบคุณลักษณะของพระนิพพานธรรม กับสามัญลักษณะ(อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา) ของสังขารธรรม มีเบ็ญจขันธ์ ให้พระปัญจวัคคีย์
- ปฏิบัติตามแนวสติปัฏฐาน 4 ได้ถึงธรรมกาย และอายตนนิพพาน
- พิจารณาเบ็ญจขันธ์ เป็นปัจจัยปรุงแต่ง ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพานไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง
- สังขารธรรม จะต้องเปลี่ยนแปลงไปตามเหตุปัจจัย เมื่อเกิดขึ้นแล้ว มีความตั้งอยู่แล้ว ก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปตามเหตุปัจจัยที่ปรุงแต่ง เป็นสภาพที่มิใช่ต้วตนแท้ที่จะคงอยู่ตลอดไปได้เลย (เป็นตัวตนสมมติ) จึงเป็นอนัตตา
- เมื่อใด บุคคลเห็นด้วยปัญญาว่า สังขารทั้งหลาย ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ย่อมหลีกหนีไปสู่นิพพาน คือเที่ยง เป็นสุข มีตัวตน
- ดังนั้น จึงไม่ควรยึดมั่น ด้วยตัณหา และทิฏฐิ
- วิสังขาร คือพระนิพพาน เป็น
ปรมัตถธรรม และเป็นอมตธรรม
- อนัตตา หมายถึงสภาวะ ความจริงของธรรมชาติทั้งปวง ที่ไม่มีแก่นสารสาระในความไมเที่ยง ในความเป็นสุขที่ถาวรแท้จริง และไม่มีสาระในความเป็นตัวตนของใครที่เที่ยงแท้ถาวรแต่ประการใด
- พระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นทั้งด้วยรูปกายอุบัติ และธรรมกายอุบัติ
- โลกุตตระ เหนือโลก

           ...............................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น